Beauty is my Passion

Phaptawan

Sunday, December 23, 2018

Classic Cat Eye & Red Lip Holiday Look



สวัสดีค่ะทุกคน
จะปีใหม่แล้ว ใครมีต้องไปดินเนอร์คริสต์มาสหรือปาร์ตี้ปีใหม่
มีลุคที่จะแต่งหน้ากันรึยังคะ

ถ้ายังแพรวขอแนะนำลุคนี้ค่ะ
อายไลน์เนอร์ cat eye + ปากแดง
ลุคเรียบง่าย คลาสสิก แต่หรู
ใช้เครื่องสำอางไม่เยอะ เบลด์ไม่เยอะ สีไม่เยอะ
ลุคนี้ไม่ได้ใช้รองพื้นแต่ก็ได้ผิวโกลว์สวย


ตามแพรวมาดูเลยค่ะ






ก่อน-หลัง





วิดีโอ


(โปรดรับชมแบบ HD)


เครื่องสำอางที่ใช้
- It Cosmetics Bye Bye Undereye - Tan
- It Cosmetics Bye Bye Undereye Illumination - Medium Tan
- Nars Creamy Concealer - Walnut
- Hourglass Lighting Edit - Unlocked
- Benefit High Brow
- L'Oreal Paris Super Liner
- Maybelline The Falsie Push Up Drama
- It Cosmetics Brow Power Pencil
- Benefit Gimme Brow - 03
- Urban Decay 24/7 Lip Pencil - Wonderland
- Giorgio Armani Matte Lipstick - 403 
- YSL Top Secrets Makeup Setting Spray




สำหรับคนที่ไม่สะดวกดูวิดีโอ
เดี๋ยวแพรวเขียนขั้นตอนคร่าวๆไว้ให้อ่านด้วยค่ะ
(ถ้าอยากดูละเอียดแนะนำให้ดูวิดีโอค่ะ)


1. เนื่องจากลุคนี้เราจะไม่ใช้รองพื้น เราเริ่มต้นด้วยการลงคอนซีลเลอร์
ปกปิดสีผิวไม่สม่ำเสมอและใต้ตาดำก่อนเลยค่ะ แพรวใช้  It Cosmetics Bye Bye Undereye สี Tan
และ It Cosmetics Bye Bye Undereye Illumination สี Medium Tan ผสมกันลงตรงที่ต้องการ
จากนั้นใช้แปรงเกลี่ยให้เนียน




2. คอนทัวร์ให้หน้าได้ดรูปด้วยคอนซีลเลอร์สีเข้มกว่าผิว
แพรวใช้ Nars Creamy Concealer สี Walnut ลงไปตามบริเวณในรูปเลยค่ะ
แล้วให้แปรงเกลี่ยให้สีสม่ำเสมอ






3. ผสมแป้งสองสี (ซ้ายบนและกลางบน) จากพาเลท Hourglass Lighting Edit Unlocked ด้วยกัน 
ลงให้ทั่วใบหน้าด้วยแปรงขนาดใหญ่ แป้งนี้กระจายแสงดีมาก ให้ผิวสวยและโกลว์ 
โดยที่ไม่ต้องลงรองพื้นเลยค่ะ ชอบมาก แพรวใช้บ่อยมากช่วงนี้






4. ไฮไลท์เพิ่มความสว่างใส ใช้แปรงแป้งหัวเล็กแตะแป้งสีอ่อน (ซ้ายบน)
จากพาเลท Hourglass Lighting Edit Unlocked เดิม ปัดลงไปตามรูป





5. แต่งตาก็ใช้ Hourglass Lighting Edit Unlocked ด้วยค่ะ
ใช้แปรงหัวฟูแตะสี bronzer (ขวาบน) ระบายลงไปบริเวณเบ้าตา
คัดเบ้าตามในรูปเลยค่ะ





6. เตรียมลงสีเปลือกตา ใช้ Benefit High Brow ลงไปที่รอยพับเปลือกตาเพื่อให้สีอ่อนขึ้นมา
ทาลงไป แล้วใช้แปรงหัวแบนเกลี่ย ตามรูป




7. ลงสีเปลือกตา ใช้แปรงอายแชโดว์หัวแบนแตะสี highlight (ขวาล่าง)
ของพาเลท Hourglass Lighting Edit Unlocked แล้วทาทับลงไปตามรูปบริเวณรอยพับเปลือกตา




8. ลง bronzer (ขวาบน) ไปตามขอบเปลือกตาด้านล่าง ตามในรูป





9. เขียนขอบตาด้วย L'Oreal Paris Super Liner ใช้หัวฟองน้ำ
เขียนขอบตา ตามในรูป เริ่มเขียนตั้งแต่กลางตาไปให้ชี้ตรงหางตา





10. ดัดขนตา ปัดมาสคาร่า Maybelline The Falsie Push Up Drama
(ในวิดีโอแพรวแอบติดขนตาด้วย เลือกแบบที่ตรงปลายยาวกว่าตรงอื่น
จะได้เน้นความ cat eye เข้าไปอีกนะคะ)




11. ผสมสองสีปัดแก้ม(ซ้ายล่างและกลางล่าง) จากพาเลท Hourglass Lighting Edit Unlocked
ดูดแก้มแล้วปัดลงไปตรงที่บุ่มลงไปค่ะ




12. ปัด highlight (ซ้ายล่าง) จากพาเลทเดิมลงไปบนบริเวณตามที่วงไว้ในรูปค่ะ




13. เขียนขอบปากด้วยดินสอ Urban Decay 24/7 Lip Pencil สี Wonderland
เขียนให้ใหญ่กว่าปากมาหน่อยโดยเฉพาะตรง cupid bow




14. ทาปากด้วย Giorgio Armani Matte Lipstick สี 403




15. เซ็ตเมคอัพด้วย YSL Top Secrets Makeup Setting Spray






ไปเปลี่ยนชุดทำผม แล้วก็เสร็จแล้วค่ะ









อันนี้ถอดคอนเทคสีใส่คอนแทคใส






สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะคะ

ไว้เจอกันใหม่ค่ะ

บายยยยย



Share:

Sunday, December 16, 2018

Artis Elite Collection Smoke Finish 10 Brush Set


สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้แพรวมารีวิวเซ็ตแปรง พร้อม makeup tutorial
แถม first impression ลองแปรงไปพร้อมๆกันเลย

แปรงที่ว่าวันนี้คือ 

Artis 
Elite Collection 
Smoke Finish 10 Brush Set

(เซ็ตแปรง 10 ชิ้น ราคาเต็ม 15,000 บาท
แพรวซื้อมาตอน Sephora Online ลดราคาช่วง Halloween เหลือประมาณ 7,000 กว่าๆค่ะ)

ซื้อเองนะคะ no sponsor
อยากรู้ว่าใช้แล้วเป็นไงยัง


ตามแพรวมาดูเลยค่ะ





วิดีโอ


(โปรดรับชมแบบ HD)


เครื่องสำอางที่ใช้

- Lancome Teint Idole Ultra Wear 045, 050
- Urban Decay Shapeshifter - Medium Dark Shift
- It Cosmetics Bye Bye Under Eye Illumination - Medium Tan
- It Cosmetics Bye Bye Pores
- Nars Bronzer - Laguna
- Wynn Me Signature Brow - Asian Look
- Urban Decay Born To Run Palette
- Maybelline The Falsies Push Up Drama
- Laura Mercier Star Dust Radiant Glow Palette
- Urban Decay 24/7 Lip Pencil - 1993
- Shu Uemura Rouge Unlimited - BG915



แพรวเขียนให้อ่านด้วยดีกว่า เผื่อใครไม่สะดวกดูวิดีโอนะคะ
(แต่ถ้าอยากรู้แบบละเอียดแนะนำให้ดูวิดีโอค่ะ)


ขออภัยถ้ารูปไม่ชัดนะคะ แพรวแคปฯมาจากวิดีโออีกทีค่ะ



เซ็ตแปรง


แปรงยี่ห้อนี้เป็นกระแสมานานมากแล้วค่ะ
จำได้ว่าได้ยินถึงแปรงยี่ห้อนี่ครั้งแรกเมื่อราวๆปี 2013-2014
ตอนนั้นว่ามันตลก แปรงอะไรเนี่ย หน้าตาไม่เหมือนแปรงเลย
แต่แล้วหลังจากนั้นก็เห็นรีวิวและ feedback จากสาวกบิวตี้เยอะมาก
ว่ามันดีอย่างั้นดีอย่างงี้ พรีเมี่ยมมาก เปรียบเหมือนเหมือน Rolls-Royce ของแปรงแต่งหน้า


 แต่ด้วยราคาที่แพงกว่าแปรงธรรมดาไปมาก
แพรวก็ไม่เคยคิดจะซื้อเลยค่ะ จนกระทั่งตามที่บอกตอนต้นว่า
Sephora Online ลดราคาช่วง Halloween เหลือประมาณ 7,000 กว่าๆ
ก็เฉลี่ยแล้วก็เหลืออันละ 700 กว่าๆ ถูกลงไปมาก เลยจัดมาลองค่ะ



ลองแต่งหน้า

แปรง Artis จะมีลุกษณะเด่นคือรูปลักษณ์ของมัน
จะเหมือนกับแปรงสีฟันต่างจากแปรงแต่งหน้าทั่วไป
แปรงมีหลายขนาด ขนแปรงจะแบ่งออกเป็น 3 ทรงใหญ่ๆ คือ
- Oval เป็นวงรี
- Linear เป็นแนวยาว
- Round เป็นวงกลม

ขนาดเล็กใหญ่สำหรับการใช้งานในพื้นที่ๆต่างกันของใบหน้าค่ะ

หลักการก็คือวนแปรงเพื่อเกลี่ยสีเป็นหลัก
จะวนเป็นวงกลมหรือถูไปมาก็ได้ตามที่ราต้องการค่ะ


ทารองพื้น



เกลี่ยรองพื้นเนียนมากๆค่ะ ขนาดพอเหมาะ
ผ่านริวฝีปาก ใต้ตา ข้างจมูก กำลังดีมากๆ ไม่เป็นรอบขนแปรงเลยแม้แต่น้อย



ทา concealer



เกลี่ยได้เนียนมากๆ
ไม่กินเนื้อผลิตภัณฑ์เลยค่ะ



พื้นที่ขนาดเล็ก ในเซ็ตก็มีแปรงขนาดเล็กด้วยค่ะ
ใช้ง่ายสะดวกสบายมาก



ลงแป้งฝุ่น



ทาง่ายกว่าที่คิด แปรงไม่กินแป้งเลย
ทาทั่วหน้าแล้วเคาะแปรงแป้งที่ใช้ยังฟุ้งขึ้นมาอยู่เลยค่ะ


ลงแป้งผสมรองพื้น


เนียนมากเหมือนแปรงมัน buff แป้งลงไป ไม่เป็นรอย
ยิ่งเกลี่ยยิ่งเนียนค่ะ


ลง Bronzer/contour



ใช้แปรงขนาดใหญ่หน่อยเพื่อความเป็นธรรมชาติ
เกลี่ยแล้วไม่เป็นขอบตัดกัน เนียน

contour ข้างจมูก



แปรงทรงนี้เข้าข้างจมูกได้เป๊ะมากค่ะ



เกลี่ยสีให้กลืนกัน ชอบตรงที่ถูไปถูมาไม่ต้องคิดมากก็ออกมาเนียนนี่แหละค่ะ55


เขียนคิ้ว



แปรงนี้ใช้เขียนคิ้วแบบเจลง่ายมาก
ตอนแรกอาจจะรู้สึกยากเพราะว่าไม่ถนัดกับการถือแปรง
แต่คิ้วมาเร็วมากๆเพราะว่าแปรงมันไม่กินเนื้อผลิตภัณฑ์เลยค่ะ


ใช้แปรงกลมอันเล็กนี้เกลี่ยตรงหัวคิ้วให้เป็นธรรมชาติ



แต่งตา

อย่างที่บอกไปแล้ว่าแปรง Artis จุดเด่นคือไม่กิน product
แต่งตากก็ง่ายค่ะ ถูๆ เกลี่ยๆ ตรงไหนที่เราอยากลงเล็กๆก็ใช้แปรงหัวเล็ก
ตรงไหนที่อยากให้ฟุ้งๆหน่อยก็เกลี่ยด้วยแปรงหัวใหญ่





ทาขอบตาล่างก็ได้ค่ะ ปาดเดียวสีสวยเลย


เขียนขอบตาบนก็ได้เหมือนกัน
แม้ว่าจะไม่ค่อถนัดก็ตาม




ปัดแก้ม


ปัดแก้มมีความช็อคเบาๆ เพราะว่าเนื้อบลัชมันต่อข้างเข้ม
แปรง Oval 8 ก็ขนนุ่มแน่น ไม่กินเนื้อ product เล้ย
ปัด 100 สีออกมาก 100 ถ้าดูในคลิปจะเห็นว่าเป็นปื้นเลยค่ะ


แต่ก็แก้ได้ง่ายๆด้วยการเอาแปรงที่ใช้ทาแป้งมาเกลี่ยจนสีเสมอกัน


ปัด highlight

เช็ดแปรง oval 6 ที่ทารองพื้น
แล้วมาแตะ highlighter แล้วทาลงไป




ทาปาก

แอบไปดูวิดีโอของแบรนด์มาด้วย
เค้าแนะนำให้ใช้แปรง round 1R ทาปาก
แต่ลองแล้ว ไม่ถนัดค่ะ ทาจากแท่งโดยตรงง่ายกว่า





มาดูข้อสรุปกันนะคะ


ข้อดี
- แปรงสวย มีความ premium
- แขนแปรงนุ่ม มีคุณภาพ
- ไม่กินเนื้อ product เลย ให้สีผลิตภัณฑ์ชัดมาก
ซึ่งน้อยนะที่แปรงแต่งหน้าจะทำได้ ปกติมันต้องกินนิดๆหน่อยๆ


ข้อเสีย
- ใช้ไม่ถนัด เนื่องจากรูปลักษณ์จากแปรงที่เราคุ้นเคย
- ต้องคอยเช็ดแปรงระหว่างใช้
แปรงอันนึงต้องทำหลายหน้าที่ เนื่องจากการใช้งานแบ่งไปตามขนาดของแปรง
เพราะว่าขนแปรงเหมือนกันหมด ทารองพื้น แล้วก็มาทาแป้ง ทาไฮไลท์ เป็นต้น


สรุป
- ราคาสูง ถ้าไม่ลดราคาเยอะคงไม่ซื้อ
ที่ซื้อมาก็ว่าคุ้ม แต่ก็ว่าแพงอยู่ดีนะคะ
- แปรงไม่ได้ใช้ดีทุกอัน หมายถึงลักษณะการใช้งาน
มันมีบางอันที่เรารู้สึกว่าแปรงแบบเดิมๆใช้แล้ว work กว่า ราคาก็เบากว่าด้วย


ถ้าใครอยากซื้อนะคะแพรวแนะนำ
- Linear 1
- Oval 6
- Oval 4
อันนี้คือที่แพรวว่าใช้แล้วปังนะคะ

ใครเล็งๆอยู่ก็ไปลองดูโนะ


ไว้เจอกันใหม่ค่ะ


บาย




Share:
Blog Design Created by pipdig