Beauty is my Passion

Phaptawan

Sunday, April 28, 2013

Review : YSL Le Teint Touche Éclat Compact


สวัสดีค่ะทุกคน :D
สบายดีกันมั้ยคะ

วันนี้เรามีรีวิวมานำเสนอค่ะ(ต่อจากคราวที่แล้วที่ติดไว้)
คราวนี้เป็นเป็นแป้งผสมรองพื้น Le Teint Touche Éclat Compact ค่ะ

จริงๆแล้วเราเป็นแฟนของแป้งผสมรองพื้นอยู่แล้วค่ะ
ส่วนมากของการแต่งหน้าประจำวันก็จะใช้แค่แป้งฝุ่นแล้วก็แป้งผสมรองพื้น
เพราะว่าสะดวก ใช้ง่าย แล้วก็สบายผิวค่ะ :D
แบบปัดๆ ก็ได้ผิวสวยแล้ว ไม่ต้องมาบรรจงเกลี่ย
เพราะแค่นี้แต่ละวันก็ใช้เวลาแต่งหน้านานพอแล้ว5555


เอาล่ะ! เรามาเริ่มกันเลยนะคะ



Le Teint Touche Éclat Compact SPF35
(เลอ แตง ทุช เอคลา คอมแพค)




แป้งผสมรองพื้นรุ่นนี้เค้ามีคำจำกัดความไว้ว่า
"ILLUMINATING POWDER FOUNDATION – DIMENSIONAL RADIANCE – SOPHISTICATED FINISH"
คือเป็นแป้งผสมรองพื้นที่มอบความสว่างกระจ่างใส ให้ผิวดูเปล่งประกายอย่างมีมิติ ให้ผิวดูสวยค่ะ
แป้งผสมรองพื้นรุ่นนี้เค้าจะออกมาคู่กับรองพื้นชนิด liquid อีกตัว
ที่ชื่อว่า Le Teint Touche Éclat UV โดยที่รองพื้นรุ่นนี้จะ
เป็นสูตรที่พัฒนามาให้เหมาะกับทั้งสภาพผิวและอากาศของโซนเอเชียโดยเฉพาะค่ะ
ก็คือจะเหมาะกับผิวมันแล้วก็ทนต่ออากาศชื้นๆได้ดีนั่นเองค่ะ

(รูปคู่รองพื้นทั้งสองแบบที่ว่า ที่มา)


(รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ค่ะ อยากอ่านใหญ่ๆ คลิกที่รูปเลยค่ะ)



แป้งผสมรองพื้นชิ้นนี้ก็ขายแยกรีฟิลกับตลับค่ะ

(รีฟิล 1850 บาท ตลับ 650 บาท)


(เราใช้สี B30 ค่ะ)

(ซูมให้ดูแป้งใกล้ๆ เนื้อแป้งละเอียดมากๆ)


(ตลับจะมีซองกำมะหยี่สีดำใส่มาให้)


(ด้านนอก สีทองสวยงาม น้ำหนักเบามากด้วย)

(ด้านในค่ะ)



มาลองผลิตภัณฑ์ให้ดูกันเลยดีกว่า

รูปทั้งหมดไม่ได้ปรับแต่งใดๆนะคะ ถ่ายด้วยกล้องหน้า iPhone5ค่ะ
ถ้าอยากดูรูปใชัดๆใหญ่ๆ คลิกที่รูปนะคะ


(หน้า before ลงทุช เอคลา แล้วก็แป้งฝุ่นเรียบร้อยนะคะ
 ถ่ายรูปทำรีวิวกับฮาวทูต่อกันเลยค่ะ ประหยัดเวลา555)

(ซูมให้ดูใกล้ๆค่ะว่าผิวก่อนทาเป็นยังไง)

(เราลงแป้งหน้าด้านซ้ายมือ(ที่มีแปรงแตะอยู่) อีกด้านยังไม่ได้ลงนะคะ
หน้าข้าวที่ลงแป้งผสมรองพื้นแล้วจะสะท้อนแล้วก็กระจายแสงได้ดีกว่าค่ะ
แล้วก็ดูเนียนใสกว่าด้วย)

(หน้าที่ทาแล้วทั้งหน้าค่ะ แต่ยังไม่เซ็ตดีนะคะ จะเห็นได้ว่าขาวนิดหน่อย)


 เวลาผ่านไปประมาณ 3-4 ชม.
(แต่งหน้าเต็มอัดวิดีโอฮาวทูค่ะ ตอนนี้ยังตัดไม่เสร็จเลย ฮืออออ)


(ไม่ได้ลงแป้งเพิ่ม ไม่ได้ซับหน้าค่ะ)

(ซูมค่ะ ว่าทาแล้วเป็นยังไง)




(เปรียบเทียบให้ดูชัดๆนะคะ ข้างบนทีละรูปอาจเห็นไม่ชัด 
ล่างทาแล้ว บนยังไม่ได้ทาค่ะ เอามาจับคู่กันให้ดูเลย
ความแตกต่าง ชัดเจนค่ะ)




ข้อดี :
- ทาแล้วผิวสวยโดยที่ผิวยังดูเป็นผิวอยู่ เป็นธรรมชาติ
- ทาแล้วไม่ดูแป้งๆ หน้าดูมีมิติอย่างที่เค้าเคลม ไม่แบน
- เนื้อแป้งละเอียดมาก เบา สบายผิว ใช้แปรงทาสองเลเยอร์ทั้งหน้าก็ไม่ดูโบ๊ะ
- ริ้วรอยจุดด่างดำต่างๆถูกพรางไปด้วยการกระจายแสง แทนที่จะปิดหนาๆ(อันนี้ชอบมาก)
- ด้วยความที่เนื้อแป้งเบา ละเอียด ทาทับ ทัชอัพระหว่างวันได้สวยมาก ไม่เป็นคราบ
ได้ผิวหน้าเหมือนเพิ่งแต่งหน้าเสร็จใหม่ๆ
(แต่ทั้งนี้ต้องให้แน่ในด้วยว่าซับคามมันส่วนเกินออกไปเป็นอย่างดีแล้วนะคะ)


ข้อเสีย :
ไม่ปกปิดมากนัก อย่างกรณีบนหน้าเราก็ปิดกระไม่มิดนะคะ
แต่โดยส่วนตัวคิดว่ารอยต่างๆดูจางลงค่ะ เพราะแป้งกระจายแสงได้ดี
สำหรับคนที่อยากปกปิดผิวเยอะๆเพราะมีปัญหาหรือริ้วรอยจุดด่างดำมากเนี่ย
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ชิ้นเดียวอาจจะเอาไม่อยู่ เพราะอย่างที่บอกไปว่า
เน้นกระจายแสงและเนื้อบางเบา อาจต้องใช้รองพื้นแบบลิควิดหรือครีมเข้ามา
บวกกับคอนซีลเลอร์ ประมาณนี้ค่ะ ถึงจะเนียนกริบ


สรุป :
ประทับใจมากๆค่ะ พอเช็ตตัวแล้วผสมกับน้ำมันในผิวนิดหน่อยแล้วสวยมาก
เป็นแป้งผสมรองพื้นที่ทาแล้วได้ผิวเป็นผิว คือ ดูเป็นธรรมชาติ
แต่เนียนสวย ไม่แมทมากนัก ให้ผิวดูสวย แล้วก็มีมิติค่ะ
(ลองเลื่อนกลับไปดูรูปเปรียบเทียบดูได้ค่ะ ปลื้ม55)



ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
เราเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น หอบมีผลิตภัณฑ์กลับมาเยอะมาก
ตั้งใจว่าจะทำรีวิวทุกชิ้นให้ทุกคนได้อ่านกันเป็นข้อมูล
ซึ่งลิสต์ยาวมาก ประมาณ 30+ รายการได้55
จะพยายามเขียนมาให้ได้อ่านกันให้ได้เลยค่ะ
เอาใจช่วยด้วยนะคะ
(ตอนนี้เอาใช่ช่วยให้ตัดวิดีโอฮาวทูให้เสร็จซักทีก่อนจะดีกว่าค่ะ อุอุ)


แล้วพบกันใหม่เอ็นทรี่หน้าค่ะ




Share:

No comments

Post a Comment

Blog Design Created by pipdig