Beauty is my Passion

Phaptawan

Thursday, March 12, 2020

เที่ยว ศรีพันวา ภูเก็ต 3 วัน 2 คืน (เที่ยวแบบไม่ออกจากโรงแรม)


สวัสดีค่ะทุกคน

วันนี้แพรวจะพามาเที่ยวภูเก็ตรอบที่ 40 (หลอกๆ555)
ก็มาหลายทีแล้ว แต่คราวนี้เราจะพามาเที่ยวภูเก็ตแบบไม่ออกจากโรงแรมค่ะ
เป้าหมายเลย คือ อยากพักผ่อนในที่สวยๆ อยู่สบายๆ สงบๆ
เหตุผลที่เลือกโรงแรมนี้เพราะโรงแรมสวย มีกิจกรรมสวยๆให้ทำ
และยังมีมุมสวยให้ถ่ายรูปแบบจุใจมาก
เรียกได้ว่ามา 3 วัน 2 คืน โพสต์รูปไปได้ 2 อาทิตย์จ้ะ

คราวนี้เรานอนที่โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต 
(เที่ยวเองไม่มีสปอนเซอร์ค่ะ ถ้ามีใครเป็นสปอนเซอร์ก็คือคุณน้าของเราเนี่ยแหละค่ะ55)
เราไปเที่ยวกับคุณน้าสองคนเป็นทริปน้าหลานช่วงวันเกิดคุณน้าพอดีค่ะ



ก่อนอ่าน อยากบอก

*ทริปนี้เที่ยวเองไม่มีสปอนเซอร์นะคะ

*ค่าใช้จ่ายเราขออนุญาตไม่แจกแจงนะคะ เพราะว่าเราไม่ได้เป็นคนจ่ายค่ะ

*วิดีโอถ่ายเป็นแบบ vlog นะคะ พาไปดูด้วยกันว่าเราเห็นอะไรบ้าง ทำอะไรบ้าง
ก็จะเห็นหน้าเราพูดเยอะหน่อยนะคะ



นี่เป็นครั้งแรกของเราเลยที่ไปเที่ยวโดยที่ไม่ออกจากโรงแรมเลย
ด้วยความที่โรงแรมไกลจากตัวเมือง แล้วก็ไปแค่ไม่กี่คืน
ก็เน้นใช้ชีวิตอยู่ในโรงแรมเก๋ๆ เดินไป เดินมา ถ่ายรูป ว่ายน้ำ อาบแดด จิบเครื่องดื่ม ประมาณนี้ค่ะ

โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต สวยงามหรูหรา 
แล้วเราไปกันเป็นผู้หญิงสองนาง ก็ต้องเน้นถ่ายรูปอยู่แล้วล่ะค่ะ555
ผลัดกันถ่าย ได้รูปออกมาเยอะมาก สวยหลายรูป 
เดี๋ยวขออนุญาตโพสต์ให้ดูแทรกไปด้วยนะคะ
(คุณน้าถ่ายรูปสวยมากค่ะ555)



ตอนนี้พร้อมแล้วก็มาดูวิดีโอกันเลยค่ะ


วิดีโอ


(เพื่อความคมชัดโปรดรับชมแบบ HD)



รายละเอียดทริปเพิ่มเติมจากในวิดีโอแพรวจะเขียนให้อ่านตรงนี้นะคะ
มีภาพประกอบด้วย (ขออภัยหากภาพไม่ชัด แคปฯมาจากวิดีโออีกทีค่ะ)



การเดินทาง

จากกรุงเทพฯไปภูเก็ตก็มีหลายสายการบินให้เลือก
คราวนี้เราบิน Thai Smile บินจากสุวรรณภูมิ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ครึ่ง
เผลอแป๊บๆถึงแล้วค่ะ

ตอนที่ไปเมื่อต้นเดือนก.พ. ก็เริ่มมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 แล้วค่ะ
ไม่มีนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่มาเที่ยวแล้วมันเงียบมาก
โล่งไปหมดเลยค่ะ โรงแรม สนามบิน โล่งไปหมด
จะว่าดีก็ดี มันไม่แออัด หายใจหายคอคล่อง
จะว่าไม่ดีก็คนทำมาหากินก็ซบเซา เป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายค่ะ

อันนี้คุณน้าจองรถจากทางโรงแรมให้มารับจากที่สนามบิน
เค้าแจ้งว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จากสนามบินภูเก็ตไปแหลมพันวา
(ดูใน google maps มันคนละฟากของภเก็ตเลยค่ะ)
เราก็นอนหลับยาวเลย ตื่นมาอีกทีคือคุณน้าปลุก เพราะเค้าแวะให็ซื้อของที่เซเว่นก่อนเข้าโรงแรมค่ะ


 (รถตู้เบาะหลับสบายมาก)





โรงแรม

พอถึงโรงแรมก็เช็คอิน โรงแรมศรีพันวานี้จะอยู่บนเขาค่ะ ทางขึ้นวิ่งรถค่อนข้างชัน
ล็อบบี้จะอยู่ที่นึง แล้วส่วนห้องพัก วิลล่าต่างๆก็จะกระจายตัวกันอยู่เป็นโซนๆไป
มันจะมีความชวนหลงเบาๆเพราะว่าทางในนั้นจะมีต้นไม้เยอะเหมือนกันไปหมดค่ะ
ต้องเดินไปเดินมาพอสมควรถึงจะเข้าใจทาง
แต่ว่าถ้าเราไม่อยากเดินหรือกลัวหลงก็มีรถตุ๊กบริการพาไปทุกที่ค่ะ

 (ก่อนเค้าไปส่งที่ห้องจะมีพนักงานมาอธิบายแผนที่โรงแรม กันลูกค้าหลง555)


 (วิวจากล็อบบี้)


 (รถตุ๊กที่นี่รอไม่นานค่ะ น่าจะมีเยอะหลายคันแล้วแขกคนไม่เยอะมากช่วงที่ไป)





The Habita

ได้ยินมาว่าเป็นตึกสร้างใหม่
เรากับคุณน้าได้ห้องที่เป็น Penthouse ชั้นบนสุด
คือ มีห้องนั่งเล่นแยกจากห้องนอน แล้วก็มีสระน้ำอยู่ตรงระเบียงค่ะ
เราชอบที่เพดานค่อนข้างสูง ให้ความรู้สึกโปร่งค่ะ
แสงเยอะด้วยเพราะว่าหน้างต่างก็คือประตูกระจก รับแสงเต็มๆเลยค่ะ
เราชอบการใช้สีในการตกแต่งที่ค่อนข้างเป็นสีเบจกับไม้ ให้ความรู้สึกกลางๆ
อบอุ่น เป็นมิตร เรายังชอบผนังที่มี texture มันรู้สึกมีมิติ ไม่น่าเบื่อด้วยค่ะ

(เปิดประตู้เข้ามาเป็นห้องนั่งเล่น - ขออภัยย้อนแสง ดูแบบไม่ย้อนแสงได้ในวิดีโอนะคะ)


(โซฟาสบายมาก อยู่กัน 2 คนคือ ดีมาก ไม่อึดอัดเลยค่ะ)


 (มีเคาน์เตอร์ครัว และมีโต๊ะกินข้าวเป็นเรื่องเป็นราว)


 (ห้องนอนเปิดประดูไปก็ลงสระเลยค่ะ)


 (ห้องน้ำอยู่ด้านหลังเตียง)


 (อ่างล้างหน้าเป็น double sink ของใครของมัน)


 (อ่างอาบน้ำเป็นแบบ freestanding)


 (วิวจากระเบียงห้อง)



(วิวจากล็อบบี้ตึกที่เราพักค่ะ ด้านล่างจะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่)




Baba Pool Club/Baba Iki

ในโรงแรมมีห้องอาหารหลายที่ค่ะ แต่ละที่ก็เสิร์ฟอาหารแตกต่างสไตล์กันไป
เรากับคุณน้ากว่าจะจัดแจงข้างของที่ห้องเสร็จก็หิวมากเพราะว่าเลยเวลาเที่ยงมาพอสมควรค่ะ
เรียกรถตุ๊กมาที่ร้านอาหารญี่ปุ่นมาที่ตึก Baba Pool Club
ร้านชื่อ Baba Iki ค่ะ มองลงไปจากโต๊ะที่ได้นั่งก็เห็นทะเลเรียบสงบ
แม้อากาศจะร้อนแต่ก็อยากนั่งด้านนอกรับลมทะเลค่ะ
อาหารที่ร้านก็จะมีตั้งแต่ซูชิ โรล Omakase Yakitori มีครบหมดค่ะ
ปลาสดดีด้วย อร่อยดีค่ะ

(มองไปทางไหนก็เจอทะเล)







อิ่มแล้วเราก็เดินย่อยกลับห้องค่ะ จะได้ดูโน่นดูนี่ด้วย

 (แผนที่ในโรงแรม มีอะไรให้ทำเยอะเลยค่ะ)



(หน้าทางเข้าสปา สีน่ารักเหมาะจะถ่ายรูปซักหน่อย)


(ก็ถ่ายสิจ๊ะ ไม่พลาดนะจ๊ะ555)




Baba Nest

จะเรียกว่าเป็น highlight ของศรีพันวาก็คงไม่ผิดนัก
ใครๆมาที่ศรีพันวาก็อยากมาที่ Baba Nest ค่ะ แถมจองยากอีกต่างหาก
ที่นี่ก็จะเป็นร้านอาหารที่อยู่จุดสูงสุดของแหลมพันวา ได้วิวทะเล 360 องศา
พร้อมร้อมรอบไปด้วย infinity pool ที่ลงไปว่ายน้ำได้จริงๆไม่ได้ตื้นๆเป็น reflecting pool เท่านั้น
เรียกว่าได้ดื่มด่ำจมหายไปกับวิวพระอาทิตย์ตกแบบเต็มๆ
แถมยังนอนดูดาวต่อได้อีกเพราะว่าที่นั่งเป็น bean bag
จะนั่ง จะเอน เอาตามใจชอบได้เลยค่ะ
เรากับคุณน้าก็อยู่กันจนเกือบ 2 ทุ่มค่ะ นั่งยาว ลมพัดเย็นด้วย เพลินๆ

ที่นี่ถ้าเป็นแขกในโรงแรมเค้าให้สั่งขั้นต่ำ 1,000 บาท/คน
(ซึ่งครบอย่างรวดเร็วค่ะ เพราะว่าดริ๊งค่อนข้างแพง555)
ถ้าไม่ได้พักที่โรงแรมให้สั่งขั้นต่ำ 2,000 บาท/คน ค่ะ



(มีรูปคู่กันน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่ผลัดกันถ่ายค่ะ555)

(จังหวะพระอาทิตย์ตกนี้แสงก็ถ่ายรูปสวยมากนะคะ)


(ดูพระอาทิตย์ตกที่นี่มันช่างน่าอภิรมย์ค่ะ สถานที่สวย วิวสวย เพลงเพราะอีกต่างหาก)





Breakfast

อาหารเช้าเค้าจัดไว้ที่ Baba Pool Club ที่เดิมค่ะ
ถ้าจำไม่ผิดมีตั้งแต่เช้าตรู่ถึงประมาณ 10 โมง
เราสามารถเลือกมานั่งริมสระว่ายน้ำ ติดทะเล ได้ด้วย
ได้วิวได้บรรยากาศแต่อาจจะต้องเดินไปตักอาหารไกลนิดนึง
อาหารไม่ได้เป็นบุฟเฟ่ต์อย่างเดียวนะคะ มีที่เราสามาถสั่งจากเมนูได้ด้วย
เช่น egg benedict truffle sauce, แพนเค้กกล้วยหอม, french toast เป็นต้น 
เค้าก็จะยกมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะค่ะ



 (จัดวางให้ดีก็ instgrammable มากเลย)

(รูปนี้ถ่ายที่ใต้ Baba Pool Club ค่ะ ส้มๆ ได้อีกฟีลนึง)



Beach

ชายหาดของศรีพันวามีที่เดียวค่ะ
จะมีทางเดินลงไป หาดจะเล็กหน่อย
กว่าจะเดินถึงหาดก็จะมี Beach Pool เป็น infinity pool ที่เหมาะแก่การถ่ายรูปอีกที่
หาดที่นี่ไม่ใหญ่ค่ะ ขนาดก็น่าจะพอรองรับแขกได้พร้อมกันประมาณ 10-20 เอาแบบไม่อึดอัด
หาดเป็นหาทราย แต่ก็มีหิน บนหาดเป็นทราย เดินลงทะเลไปเป็นหินค่ะ
ถ้าอยากไปหาดทรายแบบสวยแบบในภาพวาดก็อาจจะไม่ใช่ที่นี่
แต่แพรวไม่ขอบ่นค่ะเพราะว่าวันที่ไปหาดกัน มีเรากับคุณน้า 2 คน
หาดส่วนตัวมากๆ นอกจากพนักงานรักษาความปลอดภัยชายหาดก็ไม่มีใคร
ก็ต้องบอกตรงๆว่าฟินมากค่ะ555


( Beach Pool จะเข้าห้องน้ำต้องเดินขึ้นมา ก็มีหอบเบาๆนะคะ)

(ถ่ายจาก Beach pool ช่วงเช้าก็จะได้แสงประมาณนี้)


(เดินค่อนข้างหลายชั้นกว่าจะถึงชายหาดค่ะ)



(ก็หยุดเพื่อถ่ายรูปไปเดินไป ก็เลยนานกว่าจะถึง)




 (มีอุปกรณ์ทางน้ำให้ยืมเล่นฟรี)


(พาย paddleboard ไป กลัวตกไป ปกติเราไม่กลัว แต่ว่าที่นี่ข้างล่างเป็นหิน เราเกร็งกลัวตกมากค่ะ
แถมช่วงที่ไปมีแมงกะพรุนอีก แม่จ๋า มันลอยมาคู่กับบอร์ดเลยจ้ะ ฮรือออออ)



 (ทุ่นกลางทะเลที่นี่ก็เป็นอีกจุดที่เหมาะกับการถ่ายรูปค่ะ ถ่ายออกเห็นทะเลก็สวย
ถ่ายเข้าเห็นเกาะก็ส่วยค่ะ)




Penthouse

วันที่สองเราดูพระอาทิตย์ตกกันจากที่ห้องค่ะ
เป็นวันเกิดก็ฉลองเปิดแชมเปญจิบกันสองคนน้าหลานค่ะ 
ถ่ายรูปจากสระน้ำที่ห้องพร้อมชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ
เรียบง่าย แต่ดีต่อใจมาก


(ตั้งใจเฝ้าดูพระอาทิตย์ตั้งแต่เริ่มคล้อยจนตกดิน)



(แสงตอนพระอาทิตย์ตก รูปก็จะเท่ห์ประมาณนี้แหละพี่จ๋า)



Pool Bar

ไหนๆก็วันเกิดแล้ว มืดแล้วก็เลยออกมาดื่มต่อกันนิดหน่อยค่ะ
เค้ามี Pool Bar อยู่ตรง Baba Pool ที่เรามากินข้าวเช้า
เราก็สามารถสั่งเครื่องดื่มแล้วก็อาหารไปนั่งตรงคอกที่มี reflecting pool ล้อมรอบได้ค่ะ
ติดทะเลด้วย ลมทะเลกลางคืนพัดสบายๆ ที่นี่เค้าจัดแสงไฟจัดสวยงามด้วยค่ะ


(Prosecco กับ Antipasti Platter เมื่อตอนหมดวัน คือ ดีย์)



ปิดท้าย

เราชอบทุกอย่างที่ศรีพันวานี่
แต่ขอเตือนว่ายุงดุมากค่ะ มันโหดเหี้ยม
มันพุ่งตัวแล้วแลนดิ้งบนผิวเราด้วยปากของมันเลย
จิ้มจึ้ก คันนนนนนนนน มาก อาจเพราะเราแพ้ยุงด้วย
มันอยู่ทุกที่นะคะ ที่บีช กลางแดด มันยังบินไปกัดเราได้เลยค่ะ
ยุงตัวใหญ่และแข็งแรงมาก เพราะว่าป่าเยอะ มันคือยุงป่าค่ะทุกคน
แนะนำให้พกผลิตภัณฑ์กันยุงที่คุณไว้วางใจไปด้วยค่ะ จะได้อยู่รอด ไม่โดนยุงหามนะคะ




หวังว่าเพื่อนๆจะอ่านแล้วสนุกเหมือนไปเที่ยวกับเรานะคะ

มีคอมเม้นต์อะไร ทิ้งไว้ด้านล่างได้เลยค่ะ ยินดีรับฟังค่ะ

ขอบคุณที่รับชม แล้วไว้พบกันใหม่นะคะ


สวัสดีค่ะ


Share:

No comments

Post a Comment

Blog Design Created by pipdig